วิธีคิดก่อนซื้อ รถมือสอง
สำรวจงบประมาณของคุณ ก่อนจะซื้อรถมือสอง คุณควรสำรวจสถานะ […]
สำรวจงบประมาณของคุณ
ก่อนจะซื้อรถมือสอง คุณควรสำรวจสถานะทางการเงินและกำหนดงบประมาณสำหรับการซื้อรถให้ชัดเจนว่าสามารถซื้อรถได้ในช่วงราคาเท่าไหร่ ทั้งนี้ ควรเผื่อค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าโอน ค่าทะเบียน ค่าประกันภัยรถยนต์ และค่าน้ำมันเบื้องต้นไว้ด้วย จากนั้นจึงค้นหารุ่นรถและยี่ห้อรถที่อยู่ในงบประมาณของคุณกำหนดเกณฑ์การเลือกซื้อรถ
หลังจากที่กำหนดงบประมาณแล้ว คุณควรเริ่มกำหนดเกณฑ์ในการเลือกซื้อรถมือสอง เช่น ประเภทรถยนต์ที่ต้องการ (เช่น รถเก๋ง รถกระบะ รถอเนกประสงค์) ช่วงปีและยี่ห้อรถที่สนใจ ขนาดของตัวรถ ที่นั่ง เครื่องยนต์ และระบบเกียร์ที่ต้องการ นอกจากนี้ คุณอาจกำหนดเกณฑ์เกี่ยวกับสภาพตัวรถ หรือการตกแต่งภายในเอาไว้ด้วยวิจัยและค้นหารถมือสอง
เมื่อกำหนดเกณฑ์การเลือกซื้อรถได้แล้ว คุณสามารถเริ่มวิจัยและค้นหารถยนต์ที่ตรงตามเกณฑ์เหล่านั้นได้ ทั้งนี้ อาจเริ่มจากการหาข้อมูลรถยนต์รุ่นและยี่ห้อที่คุณสนใจในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันขายรถมือสองต่างๆ อ่านรีวิวจากผู้ใช้งานจริง และสอบถามราคาคร่าวๆตรวจสอบสภาพตัวรถอย่างละเอียด
เมื่อได้รถยนต์ที่สนใจแล้ว คุณควรนัดหมายกับผู้ขายเพื่อตรวจสอบสภาพตัวรถอย่างละเอียด ทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ เช็ครอยบุบ รอยขีดข่วน ตรวจสอบระบบต่างๆ ภายในรถ เช่น ระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง ระบบไฟฟ้า ให้แน่ใจว่าระบบต่างๆ ยังทำงานได้เป็นปกติ รวมทั้งควรทดลองขับรถเพื่อตรวจสอบสมรรถนะการขับขี่ด้วยตรวจสอบประวัติและเอกสารรถยนต์
ก่อนจะตัดสินใจซื้อรถมือสอง คุณควรตรวจสอบประวัติและเอกสารรถยนต์ให้ชัดเจน รวมทั้งควรขอเอกสารสำคัญต่างๆ เช่น เล่มทะเบียนรถยนต์คู่มือจดทะเบียนรถยนต์ ใบเสร็จรับเงิน และเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ชุดเก่า นอกจากนี้ คุณอาจขอเจ้าของรถผู้ขายนำรถไปตรวจสอบที่อู่ซ่อมรถเพื่อตรวจสอบสภาพรถโดยละเอียดตกลงราคาและวิธีการชำระเงิน
เมื่อตรวจสอบสภาพรถและเอกสารเรียบร้อยแล้ว คุณสามารถตกลงราคากับผู้ขายได้ ทั้งนี้ ควรต่อรองราคาตามความเหมาะสม โดยอาจพิจารณาจากสภาพของรถ ราคาตลาด และปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อตกลงราคาได้แล้ว ให้ตกลงวิธีการชำระเงิน ทั้งนี้ อาจชำระโดยตรงกับผู้ขาย โอนเงินผ่านธนาคาร หรือใช้บริการของบริษัทที่รับจัดการซื้อขายรถยนต์มือสองทำการโอนและจดทะเบียนรถยนต์
เมื่อตกลงราคากันได้แล้ว คุณควรเตรียมเอกสารที่จำเป็นสำหรับการโอนและจดทะเบียนรถยนต์ โดยปกติแล้ว เอกสารที่จำเป็น ได้แก่ เล่มทะเบียนรถยนต์คู่มือจดทะเบียนรถยนต์ บัตรประชาชนของผู้โอนและผู้รับโอน พร้อมสำเนา สำเนาทะเบียนบ้านของผู้โอนและผู้รับโอน พร้อมสำเนา และหนังสือมอบอำนาจหากผู้โอนและผู้รับโอนไม่สามารถไปทำการโอนสิทธิ์ที่กรมขนส่งได้ด้วยตนเอง