![กรมการขนส่งฯ เตือน! ซื้อขายรถมือสองอย่าโอนลอย อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ](https://japanfollow.com/wp-content/uploads/2024/01/65b35a9e63edf.jpg?v=1706252968)
กรมการขนส่งฯ เตือน! ซื้อขายรถมือสองอย่าโอนลอย อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
กรมการขนส่งทางบก เตือนประชาชนว่า อย่าโอนลอยรถมือสอง เพื […]
กรมการขนส่งทางบก เตือนประชาชนว่า อย่าโอนลอยรถมือสอง เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยย้ำให้ทำเรื่องโอนกรรมสิทธ์ให้เรียบร้อย โดยมีเจ้าของรถตัวจริงอยู่ด้วย ไม่เช่นนั้นอาจถูกยึดรถหรือมีปัญหาตามมาได้ พร้อมให้ความรู้และแนะนำเกี่ยวกับการซื้อขายรถมือสองที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยและคุ้มครองสิทธิ์ตามกฎหมาย
การโอนลอยรถมือสองหมายถึง การโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์จากเจ้าของเดิมไปยังเจ้าของใหม่โดยไม่ได้มีการนำรถไปตรวจสภาพและแจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลกับกรมการขนส่งทางบก ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและอาจทำให้ผู้ซื้อกลายเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้ เช่น มิจฉาชีพอาจหลอกขายรถที่ติดไฟแนนซ์ หรือรถที่ถูกโจรกรรมมา หรืออาจใช้รถที่ซื้อมาไปก่ออาชญากรรมต่างๆ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบ ผู้ซื้อก็จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยและอาจถูกดำเนินคดีได้
ดังนั้น กรมการขนส่งทางบกจึงขอเตือนให้ประชาชนอย่าโอนลอยรถมือสองโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น และขอให้ทำเรื่องโอนกรรมสิทธ์ให้เรียบร้อย โดยมีเจ้าของรถตัวจริงอยู่ด้วย เพื่อให้มีหลักฐานยืนยันการซื้อขายและป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง
ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่ถูกต้องมีดังนี้
- ตรวจสภาพรถยนต์ที่สำนักงานขนส่ง หรือศูนย์บริการตรวจสภาพรถ เพื่อขอหนังสือรับรองการตรวจสภาพรถยนต์
- ทำการซื้อขายและลงนามในสัญญาซื้อขายรถยนต์ โดยต้องระบุรายละเอียดให้ชัดเจน เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และเลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขายและผู้ซื้อ ยี่ห้อ รุ่น สี และหมายเลขทะเบียนรถยนต์ ราคาซื้อขาย และวันเวลาที่ทำสัญญา
- นำเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยื่นที่สำนักงานขนส่ง ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ขายและผู้ซื้อ สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ หนังสือรับรองการตรวจสภาพรถยนต์ และสัญญาซื้อขายรถยนต์
- ชำระค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์
- รับเล่มทะเบียนรถยนต์เล่มใหม่และป้ายทะเบียนรถยนต์ชุดใหม่